ในวันนี้นักเรียน นักศึกษาอาชีวศึกษาทั้งภาครัฐและเอกชนเนื้อหอมเพราะการขาดแคลนแรงงาน จากข้อมูลของประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ประเมินว่าปี 2566ประเทศไทยในภาคอุตสาหกรรมโดยรวมยังขาดแคลนแรงงานอยู่ที่ 350,000-500,000 คนโดยส่วนใหญ่ในภาคการท่องเที่ยวและบริการ เนื่องจากการท่องเที่ยวโตแบบฉับพลัน ทำให้แรงงานที่ขาดแคลนอยู่แล้วขาดแคลนเพิ่มไปอีก จะเห็นได้จากข่าวภูเก็ต ขาดแคลนแรงงานหนัก เตรียมลงนาม MOU กับวิทยาลัยอาชีวศึกษาภูเก็ต ดึงนักศึกษามาฝึกงาน แก้ปัญหาแรงงาน มีทั้งนักศึกษาฝึกงาน และนักศึกษาระบบทวิภาคี
ไม่ว่าการฝึกงาน หรือทวิภาคีต่างเป็นประโยชน์เพราะสถานประกอบการสามารถเตรียมความพร้อมเรื่องคนทำงานโดยไม่ต้องเสียเวลาฝึกพนักงานใหม่ สามารถพิจารณาคัดเลือกและรับนักเรียน นักศึกษาเข้าทำงานได้ทันทีหลังจบการศึกษา และจะเกิดความยั่งยืนของธุรกิจในอนาคต
คำว่า “ฝึกงาน หรือ Internship” คือการที่นักเรียน นักศึกษาหาที่ฝึกงานเอง เน้นการสัมผัสกับบรรยากาศการปฏิบัติงานจริงในสถานประกอบการ เพื่อเป็นเตรียมตัวก่อนจบการศึกษาไปทำงาน เป็นงานที่สอดคล้องกับงานในสาขาวิชาที่เรียน ทางสถานประกอบการจะพิจารณาด้วยว่าเหมาะสมหรือไม่ โดยมีระยะเวลาไม่น้อยกว่า 320 ชั่วโมง หรือไม่น้อยกว่า 40 วัน ส่วนมากสถานประกอบการจะคุยกับสถานศึกษาขอให้ฝึกงาน 1 ภาคเรียน
คำว่า “การศึกษาระบบทวิภาคี หรือ Dual Vocational Education” คือระบบการศึกษาที่นักเรียน นักศึกษาใช้เวลาเรียนส่วนหนึ่งในสถานศึกษา และใช้เวลาอีกส่วนหนึ่งฝึกปฏิบัติในสถานประกอบการที่มี MOU (Memorandum of Understanding) ร่วมกัน เป็นการฝึกปฏิบัติงานจริงเพื่อเตรียมตัวเข้าทำงาน มีระยะเวลาการฝึกปฏิบัติในสถานประกอบการไม่น้อยกว่า 2 ภาคเรียน หรือไม่น้อยกว่า 36 สัปดาห์ เพราะ 1 ภาคเรียนมี 18 สัปดาห์ สามารถยืดหยุ่นได้ว่าจัดสลับวัน สลับภาคเรียน ขึ้นอยู่กับการตกลงกัน
ทั้งสองอย่างสถานประกอบการจะเรียกรวมๆกันว่า “ฝึกงาน” แต่ถ้าจะเรียกให้ถูกถ้าเป็นระบบทวิภาคีจะเรียกว่า “ฝึกอาชีพ” ซึ่งมีประเด็นสำคัญที่ช่วยให้ผู้ประกอบการพิจารณา ดังนี้
ประเด็นสำคัญที่ 1 ต้องมีบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ หรือ MOU ระหว่างสถานศึกษาและสถานประกอบการ สามารถติดต่อขอแบบร่างได้ที่สถานศึกษาที่จะรับนักเรียน นักศึกษาได้
ฝึกงาน - เป็น MOU การฝึกงานที่มีรายละเอียดโดยรวมกว้างๆเกี่ยวกับความร่วมมือทางวิชาการ และการรับนักเรียน นักศึกษาเข้าฝึกงาน
ทวิภาคี - เป็น MOU การจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี ซึ่งจะมีรายละเอียดเกี่ยวกับความร่วมมือ การสนับสนุนทางวิชาการหน้าที่ของทั้ง 2 ฝ่าย
ประเด็นสำคัญที่ 2 ต้องมีสัญญาฝึกงาน/ฝึกอาชีพ ระหว่างสถานประกอบการกับนักเรียน นักศึกษา สามารถติดต่อขอแบบร่างได้ที่สถานศึกษาที่จะรับนักเรียน นักศึกษาได้เช่นกัน
ฝึกงาน - เป็นสัญญาการฝึกงานที่มีรายละเอียดโดยรวมเกี่ยวกับการฝึกงาน และระยะเวลาการฝึกงาน ระยะเวลาการฝึกงาน การลา ระเบียบปฏิบัติ และการประกันอุบัติเหตุ
ทวิภาคี - เป็นสัญญาการฝึกอาชีพที่มีรายละเอียดเกี่ยวกับการเรียน และการฝึกปฏิบัติในสถานประกอบการ ระยะเวลาการฝึก การลา การกำกับดูแล สวัสดิการ ระเบียบปฏิบัติ และการส่งเสริม สนับสนุน การประกันอุบัติเหตุ และอื่นๆ ตามแต่จะตกลงกัน
ประเด็นสำคัญที่ 3 ต้องมีครูฝึก ซึ่งเป็นพนักงานหรือบุคลากรของสถานประกอบการที่สามารถฝึกงานนักเรียน นักศึกษาได้ มิใช่รับเข้าไปทำงานทดแทนตำแหน่งพนักงานที่ขาดไป
ฝึกงาน - มีจำนวนที่เหมาะสมกับดูแลการฝึกงานของนักศึกษาได้อย่างทั่วถึง ให้มีความปลอดภัย
ทวิภาคี - ระดับ ปวช. และ ปวส. มีจำนวนครูฝึก 1 คนต่อจำนวนนักเรียน นักศึกษาไม่เกิน 10 คน และระดับปริญญาตรีมีจำนวนครูฝึก 1 คนต่อจำนวนนักศึกษาไม่เกิน 8 คน
ประเด็นสำคัญที่ 4 ความต่างกันในเรื่องคุณสมบัติ
ฝึกงาน - เป็นนักเรียน นักศึกษาปีสุดท้าย ถ้าเป็นนักเรียน ปวช.จะฝึกในปี 3 เทอมแรก หรือเทอมสอง ถ้านักศึกษาระดับ ปวส. จะฝึกในปี 2 เทอมแรก หรือเทอมสอง แต่หลักสูตรยืดหยุ่นให้สามารถฝึกในภาคฤดูร้อนได้ซึ่งถ้าสถานประกอบการต้องการก็ต้องไปคุยกับสถานศึกษา
ทวิภาคี - ทั้งระดับ ปวช. ปวส. และ ป.ตรี มีหลักสูตรกำหนดชัดเจนว่าต้องเรียนในระบบทวิภาคี ซึ่งสถานประกอบการสามารถตกลงกับสถานศึกษาในการรับสมัครนักเรียน นักศึกษาร่วมกัน มีบางสถานประกอบการหานักเรียนเข้าโครงการทวิภาคีโดยมีการให้ทุนการศึกษา
ประเด็นสำคัญที่ 5 ความต่างกันในเรื่องการฝึกงาน
ฝึกงาน - เป็นการฝึกที่สอดคล้องกับสาขาวิชาที่เรียน ไม่เน้นชงกาแฟหรือต้อนรับ เน้นให้สัมผัสบรรยากาศการทำงานจริง ให้เป็นลูกมือหรือผู้ช่วยงาน และให้ปฏิบัติงานจริง
ทวิภาคี - เป็นการฝึกอาชีพหรือจะเรียกให้ชัดเจนคือการเรียนและฝึกปฏิบัติในสถานประกอบการตามรายวิชาที่สถานศึกษากับสถานประกอบการตกลงกัน โดยฝั่งสถานศึกษาจะถือแผนการเรียนที่มีชื่อวิชาตามหลักสูตร ส่วนฝั่งสถานประกอบการถืองานเป็นหลัก ซึ่งแน่นอนว่างานที่ทำต้องเป็นงานที่สามารถประเมินผลกลับไปเป็นผลการเรียนของรายวิชาในหลักสูตรได้ สถานประกอบการสามารถให้บุคลากรของสถานประกอบการเป็นครูผู้ช่วยฝึกปฏิบัติหรือสอนในรายวิชาที่ตกลงกัน
ประเด็นสำคัญที่ 6 ความต่างในเรื่องระยะเวลา
ฝึกงาน - มีระยะเวลาตั้งแต่ 320 ชั่วโมง หรือ 40 วัน ในกรณียาวไปจนถึง 1 ภาคเรียน สถานศึกษาจะมีรายวิชา โครงงาน เพิ่มเติมให้
ทวิภาคี – มีระยะเวลาไม่น้อยกว่า 2 ภาคเรียน หรือ 1 ปีขึ้นไป
ประเด็นสำคัญที่ 7 ความเหมือนเรื่องการประเมินผลการฝึก
ฝึกงาน และทวิภาคี สถานศึกษามีแบบประเมินที่ระบุเรื่องที่ประเมินและไทม์ไลน์มาให้ สถานประกอบการให้พนักงานหรือบุคลากรที่รับผิดชอบสอนงานทำหน้าประเมินตามที่กำหนดส่งให้สถานศึกษาไปตัดเกรด
ประเด็นสำคัญที่ 8 ความเหมือนเรื่องครูฝึก
ฝึกงาน และทวิภาคี ครูฝึกเป็นคำโดยรวมแต่ในการฝึกประสบการณ์จริงในสถานประกอบการควรมีคนที่ทำหน้าที่ดูแลและประสานงานอาจเรียกว่าโค้ช (Coach) ที่ส่วนมากเป็นฝ่ายบุคคลทำหน้าที่ติดตาม กำกับ ดูแลการใช้ชีวิตในสถานประกอบการ ดูแลความประพฤติ คอยแนะนำ และรายงานให้สถานศึกษาทราบ และมีคนสอนงานเรียกว่าพี่เลี้ยง (Mentor) ทำหน้าที่สอนและควบคุมการปฏิบัติงาน
ประเด็นสำคัญที่ 9 ความเหมือนในเรื่องแผนการฝึก
ฝึกงาน และทวิภาคี ต้องมีแผนการฝึกเพื่อให้การฝึกงานเป็นระบบระเบียบอย่างมืออาชีพ ฝึกจากง่ายไปยาก จัดการฝึกได้ครบงานตามที่ต้องการ ว่าจะฝึกงานอะไรบ้าง ฝึกอย่างไร ใช้ระยะเวลาการฝึกเท่าไร การทำแผนการฝึกนอกจากช่วยให้การฝึกงานมีประสิทธิภาพแล้วยังจะช่วยให้การพัฒนาพนักงานมีประสิทธิภาพด้วย แผนการฝึกทำได้ง่าย ๆ คือให้ลองลิสต์ชื่องานที่จะให้น้องนักเรียน นักศึกษาทำว่ามีอะไรบ้าง แต่ละงานดูง่ายๆจะมีขั้นตอนการปฏิบัติงานเมื่อทำเสร็จจะได้ชิ้นงาน/ผลงานออกมา เช่นงานตรวจสอบและเติมน้ำในหม้อน้ำฉีดล้างกระจกรถยนต์ งานตรวจสอบและเปลี่ยนยางรถยนต์ งานรับจองห้องพัก งานจัดโต๊ะอาหาร งานเสิร์ฟอาหาร งานเสิร์ฟเครื่องดื่ม งานทำแป้งพิซซ่า งานอบพิซซ่า เป็นต้น
ประเด็นสำคัญที่ 10 ความเหมือนในเรื่องสมุดบันทึกการฝึกงาน
ฝึกงาน และทวิภาคี จะมีรูปแบบที่เหมือนกันคือเป็นสมุดคู่มือพร้อมกับบันทึกการฝึกงาน/ฝึกอาชีพ ที่สถานศึกษากำหนดและพิมพ์เป็นเล่มให้เรียบร้อย ประกอบไปด้วยสาระสำคัญคือระเบียบ แนวปฏิบัติ รายงานบันทึกการปฏิบัติงาน ตารางลงเวลา รายงานการเข้าร่วมกิจกรรม โดยในแต่ละวันจะมีให้ครูฝึกลงนามรับรอง
ประเด็นสำคัญที่ 11 ความเหมือนในเรื่องการนิเทศจากครูของสถานศึกษา
ฝึกงาน และทวิภาคี จะมีการมานิเทศ ติดตาม การฝึกงานโดยครูที่เรียกว่าครูนิเทศก์จากสถานศึกษา แต่ถ้าสถานศึกษาอยู่ต่างจังหวัดก็จะใช้ไลน์หรือโทรมาถามสารทุกข์สุกดิบ
- หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้ประกอบการทุกท่าน และสนับสนุนน้องนักเรียน นักศึกษาเรื่องสวัสดิการให้เหมาะสมเพราะเขาคือกำลังคนที่มีคุณภาพของท่านในอนาคต หากได้สวัสดิการดีผลตอบแทนย่อมดีแน่นอน เพราะน้อง ๆ สามารถทำงานได้เท่าพนักงานประจำเชียวนะ ครับ
ที่มา
หลักเกณฑ์การฝึกงานหลักสูตรการอาชีวศึกษา
มาตรฐานการจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี พ.ศ. 2563
โดย สุบิน แพทย์รัตน์ ID Line : subin.pr
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น